worldchanger.media
ไปที่ Start > Settings 2. เมื่อมายังหน้า Windows Setting ให้เลือก System > คลิก Storage หรืออีกวิธีคือค้นหาคำว่า Storage ใน Windows Setting นี้ก็ได้เช่นกัน 3.
กด Accept ในหน้า license terms แล้วรอให้มันดาวน์โหลดการอัปเดตเพิ่มเติมเล็กน้อย 7.
แต่ถามว่าสำหรับเครื่องที่ใช้เถื่อนล่ะ อัปเกรดเป็น Windows 11 ได้ไหม แอบกระซิบว่าก็ อาจจะ ได้นะ ถ้าคุณใช้ Windows 10 เถื่อนที่แคร็กแบบ Digital License ไปที่ หน้าดาวน์โหลด Windows 11 มองหา Windows 11 Disk Image (ISO) แล้วคลิก Download 2. ตรง Select the product language เลือกภาษาที่ต้องการ แล้วกด Confirm จากนั้นกดปุ่ม 64-bit Download มันจะเด้งไฟล์ให้ดาวน์โหลด ให้บันทึกไว้ไดร์ฟ D: เท่านั้น 3. Mount ไฟล์ ISO ด้วย Windows Explorer (มันคือการเปิดไฟล์ iso ด้วยการดับเบิ้ลคลิกธรรมดานี่แหละ) จากนั้นตามขั้นตอนที่ 4 ของวิธีการใช้ Media Creation Tool ด้านบนที่ผ่านมา
รันไฟล์ ที่ได้ทำการดาวน์โหลดมา จากนั้นคลิก Click Accept and Install 4.
เสียบ USB Flashdrive แล้วรันไฟล์ > กด Accept. > แล้วเลือกภาษา จากนั้นกด Next 3. เราสามารถเลือกได้ว่าจะสร้างไฟล์ ISO เอาไว้เบิร์นในแผ่น หรือเลือกเอาใส่ USB Flash drive ไปเลย ในกรณีที่เราอัปเกรดจาก Windows 7 เราอาจจะจำเป็นต้องเอาลง USB ไปก็เอาลงแผ่นก่อนถึงจะสามารถติดตั้งได้ แต่จริงๆแล้ว ตัวติดตั้ง Windows ในสมัยใหม่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นแล้ว เราสามารถอัปเกรดหรือติดตั้ง Windows ทั้งแบบ Clean และแบบ Keep ไฟล์ได้โดยไม่ต้องเอาลง USB ด้วยวิธีง่ายๆ คือการเปิดไฟล์ ISO เข้าไปแล้วติดตั้งเลย ไปดูกัน ในขั้นตอนนี้เราจะเลือก ISO files จากนั้นกด Next มันจะมีหน้าต่างขึ้นมาถามว่าเราจะเก็บไฟล์ไว้ drive ไหน ให้เก็บไว้ไดร์ฟ D: เท่านั้น รอจนดาวน์โหลดเสร็จ 4. Mount ไฟล์ ISO ด้วย Windows Explorer (มันคือการเปิดไฟล์ iso ด้วยการดับเบิ้ลคลิกธรรมดานี่แหละ) จากนั้นรันไฟล์ แล้วคลิก Next 5. โปรแกรมติดตั้งจะตรวจสอบระบบของคุณ หากพบว่าระบบของคุณไม่ตรงตามข้อกำหนดขั้นต่ำ เช่น CPU ไม่ถึง แต่มียังมี TPM ระบบอาจแสดงหน้าจอเตือนว่าไม่แนะนำให้คุณอัปเกรด ถ้าเจอหน้าจอนี้ให้กด Accept แต่หากหากคอมพิวเตอร์ของคุณตรงตามข้อกำหนด คุณก็จะไม่ได้รับคำเตือนนี้ 6.