worldchanger.media
พุทธศาสนามหายานได้กำหนดจำนวนพระพุทธเจ้าไว้มากมาย โดยแบ่งออกเป็น 3 พระองค์หลัก ๆ คือ 1.
พระโคตมพุทธเจ้า ตามทัศนะของฝ่ายมหายาน เมื่อพระองค์เสด็จอุบัติขึ้นในโลก ในขณะที่ทรงพระเยาว์จะประทับยืนชี้พระหัตถ์ขวาขึ้นฟ้าและชี้พระหัตถ์ซ้ายลงข้างล่าง แล้วตรัสพระดำรัสว่า "ครั้งนี้เป็นชาติสุดท้ายของเราแล้ว"พระรูปของพระองค์จะอยู่ในลักษณะการทรมานตนเอง มีพระวรกายซูบผอม ส่วนการปรินิพพานจะอยู่ในลักษณะประทับแบบสีหไสยาสน์ พระหัตถ์ขวารองพระเศียร มีพระสาวก 2 รูปนั่งเฝ้าพระบรมศพ ซึ่งได้แก่พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ แต่ฝ่าย เถรวาทกล่าวว่า พระสาวกทั้ง 2 คือ พระอนุรุทธะและพระอานนท์ 4. พระเมตไตรยพุทธเจ้า ทรงมีพระวรกายสีเหลือง มีสายมาลาขาวเหลืองคาดบนพระเศียรมีรูปลักษณ์คล้ายสถูป เครื่องหมายประจำพระองค์คือวรจักร ตามทัศนะของฝ่ายมหายาน พระเมตไตรยพุทธเจ้า จะเสด็จมาอุบัติขึ้นในโลกในช่วงระยะเวลาที่พระสัจธรรมกำลังได้รับการปฏิรูป กล่าวคือ มีการตีความกันมากขึ้น (ระหว่าง พ. ศ. 500-1, 000 ปี) เพื่อตรัสรู้และประกาศพุทธธรรมแก่มวลมนุษย์ตามที่พระโคตมพุทธเจ้าได้ทรงมอบหมายให้ปฏิบัติศาสนกิจแทนพระองค์ 5. พระไภสัชชคุรุพุทธเจ้า แปลว่า ยาวิเศษ โดยมีความเชื่อว่า พระพุทธเจ้าองค์นี้เป็นแพทย์ที่รักษาโรคและประทานยาแก่สรรพสัตว์เพื่อให้หายจากโรค สรรพสัตว์ที่ศรัทธาในพระองค์เพียงแค่สัมผัสพระพุทธรูปของพระพุทธเจ้าองค์นี้เท่านั้นก็จะหายจากโรคต่าง ๆ ได้
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพยากรณ์ว่า ท่านจงรู้เถิดว่า อวิชชาชื่อว่าธรรม เป็นศีรษะ วิชชาประกอบด้วยศรัทธา สติ สมาธิ ฉันทะ และวิริยะ ชื่อว่าเป็นธรรม ------------------------------------------ เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ ครับ ถามท่านผู้รู้เกี่ยวกับ พุทธทำนายครับ โลกอะไรหุ้มห่อไว้ [อชิตมาณวกปัญหานิทเทส] - บ้านธัมมะ อชิตพราหมณ์ทูลถามปฐมปัญหากับพระผู้มีพระภาค (1) - บ้านธัมมะ ขออนุโมทนา
พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ว่า สังสารวัฏฏ์นี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลาย ไม่ได้ ดังนั้นจำนวนพระพุทธเจ้าที่ได้อุบัติขึ้นแล้วมีมากมายนับประมาณไม่ได้ ในพระไตรปิฎกได้แสดงถึงพระพุทธเจ้า ๒๔ พระองค์ ที่พระโคดม พุทธเจ้าทรงพบและทรงได้รับพยากรณ์ว่า จะได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้นถ้ารวมพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันก็เป็น ๒๕ พระองค์ มีดังนี้ ๑. พระทีปังกร ๒. พระโกณฑัญญะ ๓. พระสุมังคละ ๔. พระสุมนะ ๕. พระเรวตะ ๖. พระโสภิตะ ๗. พระอโนมทัสสี ๘. พระปทุมะ ๙. พระนารทะ ๑๐. พระปทุมุตตระ ๑๑. พระสุเมธะ ๑๒. พระสุชาตะ ๑๓. พระปิยทัสสี ๑๔. พระอัตถทัสสี ๑๕. พระธรรมทัสสี ๑๖. พระสิทธัตถะ ๑๗. พระติสสะ ๑๘. พระปุสสะ ๑๙. พระวิปัสสี ๒๐. พระสิขี ๒๑. พระเวสสภู ๒๒. พระกกุสันธะ ๒๓. พระโกนาคมนะ ๒๔. พระกัสสปะ ๒๕. พระโคตมะ (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน)
คลอดพระราชโอรส พระราชโอรสได้คลอดแล้วที่สวนป่าลุมพินีวัน เพราะเดินทางผ่านมาเพื่อที่จะไปคลอดที่บ้านพ่อแม่ของตน เป็นไปตามประเพณี พระพุทธเจ้าตอนที่เป็นพระราชโอรสนั่นมาคลอดที่สวนป่าลุมพินีวัน ตรงนี้ก็น่าคิดที่ว่า พระพุทธเจ้าเป็นลูกกษัตริย์ แทนที่จะประสูติอยู่บนปราสาทบนราชวัง กลับมาประสูติอยู่ที่พื้นดิน และพระพุทธเจ้าก็ใช้ชีวิตอยู่ตามพื้นดิน ประสูติก็ที่พื้นดิน ตรัสรู้ก็ที่พื้นดิน สอนสาวกตามพื้นดิน นิพพานที่พื้นดิน 5. รับพระราชโอรสกลับพระนคร เมื่อได้ทราบข่าวพระราชโอรสคลอดยู่ในป่า พระเจ้าสุทโธทนะผู้เป็นพระราชบิดาก็จัดขบวนช้างขบวนม้ามารับพระราชโอรสกลับพระนคร นี่คนดีมีบุญญาธิการมาเกิดจะเกิดในป่าในดง เขาก็เอาม้าเอารถมารับกลับพระนคร ส่วนคนที่มีเศษบาปเศษกรรมมาเกิดเขากลับเอาถังขยะเข้าไปรับ หรือรีดใส่โถส้วม ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ฉะนั้น บุญญาธิการเราควรจะสรรค์สร้าง อย่าดูถูกเรื่อบาปเรื่องกรรม เรื่องเศษบุญเศษบาป เศษกรรมกันนัก ควรจะสร้างสมเอาไว้ ถ้าเราชื่อบาป เชื่อกรรม และตั้งใจทำแต่กรรมดี ชาตินี้เราก็ชื่นอกชื่นใจ เป็นคนสบายใจตลอดชีวิต 6. อสิตดาบสเยี่ยมพระราชโอรส เมื่อพระราชโอรสกลับมายังพระราชวังแล้ว ปรากฏว่าอสิตดาบสก็ได้เข้าเยี่ยม เมื่อพบพระราชโอรสผู้มีลักษณะบุญญาธิการ อสิตดาบนถึงกับทรุดตัวลงกราบ ทำให้พระเจ้าสุทโธทนะถึงกับตกตะลึงพรึงเพริด เพราะอสิตดาบสนั้นเป็นที่เคารพของพระเจ้าสุทโธทนะอย่างยิ่ง เมื่อเห็นอสิตดาบสก้มลงกราบพระโอรสของตนก็แปลกพระทัยยิ่งนักจึงได้ตรัสถามอสิตดาบส ท่านอสิตดาบสก็บอกว่า?
พระรัตนสัมภวพุทธเจ้า แปลว่า พระพุทธเจ้าผู้มีกำเนิด ที่ประเสริฐ เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 3 พระกายสีเหลืองทอง ท่าประตัวตัวคือท่าประทานสิ่งของ (ทานมุทรา) สัญลักษณ์ประจำตัวคือจินดามณี พาหนะคือม้าบิน ทิศที่สถิตคือทิศใต้ 4. พระอมิตาภพุทธเจ้า แปลว่า พระผู้มีรัศมีหาที่สุดมิได้ เป็นพระธยานิพุทธเจ้าองค์ที่ 4 อยู่ในอิริยาบถท่าเข้าฌาน พระกายสีแดงหม่น ท่าประจำตัวคือท่าการนั่งเข้าฌาน สัญลักษณ์ประจำตัวคือดอกบัวแดง พาหนะคือนกยูง ทิศที่สถิตคือทิศตะวันตก และ 5. พระอโมฆสิทธิ แปลว่า พระพุทธเจ้าผู้คงไว้ซึ่งความสำเร็จไม่ตกหล่น หรือผู้บันดาลความสำเร็จทุกเมื่อให้แก่สรรพสัตว์ พระกายสีเขียวประกาย ท่าทางประจำตัวคือท่าที่แสดงอาการปกป้องและคุ้มครองจิตจากภัยอันตราย (อภยมุทรา) สัญลักษณ์ประจำตัวคือวิศววัชะ (คทาแฝด) พาหนะคือครุฑ ทิศที่สถิตคือทิศเหนือ พระธยานิพุทธเจ้ามีอำนาจฌานเช่นเดียวกับพระอาทิพุทธเจ้า สามารถทำให้เกิดพระธยานิโพธิสัตว์ได้ 5 องค์ เช่นเดียวกัน ได้แก่ พระสมันตภัทรโพธิสัตว์ พระวัชรปาณีโพธิสัตว์ พระรัตนปาณีโพธิสัตว์ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ และพระวิศวปาณีโพธิสัตว์ 3. พระมานุษิพุทธเจ้า เป็นผู้ถือกำเนิดมาจากพระอาทิพุทธเจ้า โดยแสดงตนออกมาในรูปของมนุษย์ธรรมดา และอุบัติขึ้นมาในโลกมนุษย์ ทั้งนี้เพื่อเป็นอุบายแห่งการสอนสรรพสัตว์ทั้งหลายให้เร่งปฏิบัติธรรมด้วยความไม่ประมาท พระมานุษิพุทธเจ้ามีจำนวน 5 พระองค์ คือ 1.