worldchanger.media
ถ้าเธอตั้งใจเรียนมากขึ้นเธอจะสอบผ่าน (คิดว่าเป็นไปได้) SECOND Conditional Sentences วิธีใช้ ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามความจริง เป็นไปได้ยาก หรือความใฝ่ฝันที่เกิดขึ้นได้ยาก ในปัจจุบัน หรือ อนาคต Second conditional ใช้สำหรับพูดว่า ถ้าสิ่งหนึ่งที่ ไม่น่าเป็นไปได้ / เป็นไปไม่ได้ เกิดขึ้น อีกสิ่งหนึ่งจะเกิดขึ้น แตกต่างกับ First conditional ที่พูดถึงเงื่อนไขที่เป็นไปได้ ส่วนอนุประโยคเงื่อนไข if clause ในรูป Past Simple ใช้ If + Subject + V2 - ใช้ V to be รูป were กับ Subject ทุกแบบ ในส่วนนี้ 2. ประโยคแสดงผลลัพท์ที่ตามมาในรูป Future Simple in the Past ใช้ Subject + would + V1 If + subject + V2, subject + would + V1. Subject + will + V1 + if + subject + V2. she studied harder, she would pass the exam. ถ้าเธอตั้งใจเรียนมากขึ้นเธอคงสอบผ่าน (ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ คิดว่าเธอคงไม่ตั้งใจมากขึ้น และเธอคงสอบไม่ผ่าน) I won the lottery, I would buy a big house. ถ้าถูกล็อตเตอรี่จะซื้อบ้านหลังใหญ่ (ซึ่งคิดว่าคงไม่ถูกล็อตเตอรี่หรอก) I met the Queen of England, I would say hello. ถ้าได้พบราชีนีอังกฤษฉันจะกล่าวสวัสดี She would travel all over the world if she were rich.
= If he had studied hard, he would have passed. Conditional Sentence (ประโยคเงื่อนไข) แบบที่ 4 คือ แบบผสม (Mixed Type) เป็นการผสมผสานระหว่างประโยคเงื่อนไขแบบที่ 2 และ 3 เข้ามาไว้ในประโยคเดียวกัน ซึ่งกฏการใช้ประโยคเงื่อนไขแบบ Mixed Type คือ ถ้าเป็นเหตุการณ์ในอดีตกับปัจจุบัน ให้เปลี่ยน Tense ใน Main Clause (Result) จาก would have + Verb ช่องที่ 3 เป็น would + กริยาไม่ผัน หมายความว่า ถ้าในอดีตเกิดหรือไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น (Conditional Sentence แบบที่ 3) ปัจจุบันหรือตอนนี้คงเป็นหรือไม่เป็นอย่างนี้ (Conditional Sentence แบบที่ 2) I had stayed at home, I would be OK now. ** นอกจากคำว่า If แล้ว ยังมีคำอื่นๆ ที่ใช้ในประโยคเงื่อนไขได้ เช่น suppose แปลว่า สมมติว่า on condition that หรือ on the condition that แปลว่า โดยมีเงื่อนไขว่า so long as หรือ as long as แปลว่า ถ้า, ตราบใดที่ what if แปลว่า สมมติว่า อ่านต่อ คลิก >> สรุปการใช้ If clause (ประโยคเงื่อนไข)
ในบทที่ 4 ไวยากรณ์เราเป็นเรื่องประโยคเงื่อนไขนะครับ คำแรกที่ต้องรู้ก่อนเลยคือ if (conj. ) = ถ้า ใช้เชื่อมอนุประโยคเงื่อนไข เข้ากับประโยคหลักที่เป็นผลลัพธ์ อนุประโยค คือประโยคที่โครงสร้างครบละ แต่ผนวกกับ conjunction คำสันธานไป ความหมายเลยยังไม่สมบูรณ์ เช่น Because I love you เพราะฉันรักเธอ ประธานมี กริยามี แต่ยังไม่รู้เรื่องเลย.... เลยเรียกว่าอนุประโยค ต้องไปประกอบร่างเข้ากับประโยคถึงจะสมบูรณ์ เด็กม. ต้นหลายๆ แห่งจะได้เรียนมาครบแล้วทั้ง 4 แบบ ตั้งแต่ Type 0, Type 1, Type 2, Type 3 (type=แบบ, ประเภท) และในม. ปลายจะทบทวนก่อนเข้าสู่เรื่อง Mixed Conditionals (เงื่อนไขแบบผสม เพ้อเจ้อถ้าอย่างนั้นจะเป็นอย่างนี้ มโนผสมอดีตปัจจุบันอนาคต) แต่พวกเราอาจจะต้องเดินตามเขาซักหน่อยนะฮะ... เทอมนี้ออกสอบแค่แบบที่ 1 กับ แบบที่ 2 ครับ วิธีการเขียนประโยคลักษณะนี้คือ 1. If (condition=เงื่อนไข), (result=ผลลัพธ์) ถ้าเงื่อนไขขึ้นหน้าต้องมีคอมม่า(ลูกน้ำ) ก่อนไปสู่ประโยคหลักผลลัพธ์ 2. (result) if (condition). ผลลัพธ์ขึ้นหน้า ไปส่วนอนุประโยคเงื่อนไขได้เลยจบประโยคฟูลสต็อปเหมือนเดิม Type 0: If you heat ice, it melts.
(If I study hard – present simple, I always pass my exams – present simple) กริยาใน Main Clause เป็นคำสั่ง คำแนะนำ หรือ ขอร้อง ให้ใช้ Present Simple Tense If your parents ask you, tell them truth. แปลว่า ถ้าพ่อแม่ถาม ก็บอกความจริงแก่พวกเขา (เป็นประโยคคำสั่ง) If you leave, please turn out the light. แปลว่า ถ้าคุณออกไป กรุณาปิดไฟด้วยนะ (เป็นประโยคขอร้อง) If you feel tired, drink a cup of coffee. แปลว่า ถ้าคุณรู้สึกเหนื่อย ดื่มกาแฟสิ (เป็นประโยคแนะนำ) แบบที่ 1 นี้ สามารถใช้ Should แทน If ได้ ซึ่งวิธีนี้จะเรียกว่า การทำ Inversion Should she refuse to leave, telephone Ms. Wendy. = If she refuses to leave, telephone Ms. Wendy. Unless = If…Not (แปลว่า ถ้า…ไม่) ประโยคหลัง Unless จะเป็นประโยคบอกเล่า ไม่อย่างนั้นจะเป็นปฏิเสธซ้อนปฏิเสธ และผู้เรียนภาษาอังกฤษต้องจำให้ขึ้นใจอยู่เสมอ เมื่อนำ Unless ไปวางในประโยคเงื่อนไข คือ หลัง Unless ต้องไม่มีคำว่า No โดยเด็ดขาด เพราะตัวมันเองมีความหมายว่า "ไม่" อยู่ในตัวแล้ว Unless you study harder, you won't pass the exam. เปรียบเทียบกับประโยคเงื่อนไขที่ใช้ If แล้ว จะมีความหมายเดียวกัน If you don't study harder, you'll fail the exam.
เขาจะเที่ยวรอบโลกถ้ามีเงินมากๆ She would pass the exam if she ever studied. เธอคงจะสอบผ่านหรอกถ้าเธอได้เคยอ่านหนังสือบ้าง I had his number, I would call him. ถ้ามีเบอร์เขาฉันจะโทรหาเขา (แต่จริงๆ ไม่มีเบอร์เขา) I were you, I wouldn't go out with that man. ถ้าฉันเป็นเธอฉันจะไม่ไปเที่ยวกับเขา