worldchanger.media
มันให้พลังงานแก่คุณ ผักสีเขียว เช่น บรอกโคลีและคะน้าเป็นแหล่งวิตามินซีที่ดี วิตามินซี เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกายในการสร้างคาร์นิทีน ซึ่งจะนำกรดไขมันไปที่เซลล์เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานในกระบวนการที่เรียกว่า 'ปฏิกิริยาออกซิเดชันของไขมัน' หากคุณได้รับวิตามินซี ไม่เพียงพอ คุณอาจเริ่มรู้สึกว่าไม่ค่อยมีแรง ดังนั้นคุณควรรับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้น 5. ผักเขียวมีกลุ่มวิตามินบี ผักใบเขียวเป็นแหล่งของวิตามินบี บางชนิด โฟเลต หน่อไม้ฝรั่ง ผักโขม บรอกโคลี และคะน้า เป็นแหล่งโฟเลตที่ดี ร่างกายต้องการโฟเลตเพื่อใช้ในการแบ่งเซลล์ที่มีสุขภาพดี และเพื่อการสังเคราะห์ดีเอ็นเอ ไรโบเฟลวิน วิตามินบี 2 ใช้ในการผลิตพลังงานและสร้างสุขภาพผิวที่ดี สามารถพบได้ในผักใบเขียว เช่น หน่อไม้ฝรั่ง ใบแดนดิไลออน และบรอกโคลี วิตามินบี 6 จำเป็นสำหรับการเผาผลาญโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต และสามารถพบได้ในผักโขม ผักคะน้า กะหล่ำปลี และบรอกโคลี 6. ผักสีเขียวดีต่อสายตาของคุณ ผักสีเขียว เช่น ผักโขมและผักคะน้าเป็นแหล่งของลูทีนที่ดี ลูทีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจช่วยปกป้องเลนส์ตาจากรังสียูวีได้ 7. ค็อกเทลเพื่อสุขภาพจากธรรมชาติ ผักสีเขียวมีส่วนผสมของไฟโตเคมิคอล - รวมถึง แคโรทีน คลอโรฟิลล์ ฟลาโวนอยด์ และเอนไซม์ ไฟโตเคมิคอลมีบทบาทเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยล้างพิษในร่างกาย
".. อ่านต่อคลิก
เลือกกินผัก-ผลไม้ที่อยู่ในกลุ่มต่ำเป็นหลัก 2. ถ้าเป็นผักควรนำไปลวกก่อน สามารถช่วยลดโพแทสเซียมได้ประมาณ 30% เลยทีเดียวถ้าจะเอาไปทำแกง เอาไปต้ม แนะนำทิ้งน้ำแรกที่เป็นน้ำเข้มข้นที่สุดไปก่อน หรือเหลือเพียงน้อยนิดเพื่อเติมน้ำใหม่ไปเจือจางอีกรอบนะคะ 3. แบ่งทานมื้อละไม่กี่ชิ้น เน้นความหลากหลาย เช่น มื้อเช้า กินแอปเปิ้ล 3 ชิ้น, มื้อกลางวัน กินชมพู่อีก 1 ผล, มื้อเย็น กินเงาะอีกสัก 3 ลูกเป็นต้นเพียงเท่านี้ เราก็ได้ทานผลหลากหลาย แก้เบื่อ แถมยังได้ทานทุกวันอีกด้วยค่ะ จัดผัก-ผลไม้ ใน 1 มื้อยังไงดี?